1. ความแตกต่างระหว่าง ข้อมูล (Data) และสารสนเทศ ( Information)
ข้อมูล(Data) เป็นองค์ประกอบที่สำคัญอย่างหนึ่งในระบบคอมพิวเตอร์
เป็นสิ่งที่ต้องป้อนเข้าไปในคอมพิวเตอร์
พร้อมกับโปรแกรมที่นักคอมพิวเตอร์เขียนขึ้นเพื่อผลิตผลลัพธ์ที่ต้องการออกมา
ข้อมูลที่สามารถนำมาใช้กับคอมพิวเตอร์ได้ มี 5 ประเภท คือ ข้อมูลตัวเลข (Numeric
Data) ข้อมูลตัวอักษร (Text Data) ข้อมูลเสียง
(Audio Data) ข้อมูลภาพ (Images Data) และข้อมูลภาพเคลื่อนไหว
(Video Data)
สารสนเทศ (information) เป็นผลลัพธ์ของการประมวลผล การจัดดำเนินการ
และการเข้าประเภทข้อมูลโดยการรวมความรู้เข้าไปต่อผู้รับสารสนเทศนั้น
สารสนเทศมีความหมายหรือแนวคิดที่กว้าง และหลากหลาย
ตั้งแต่การใช้คำว่าสารสนเทศในชีวิตประจำวัน จนถึงความหมายเชิงเทคนิค
ตามปกติในภาษาพูด แนวคิดของสารสนเทศใกล้เคียงกับความหมายของการสื่อสาร เงื่อนไข การควบคุม ข้อมูล รูปแบบ คำสั่งปฏิบัติการความรู้ ความหมาย สื่อความคิด การรับรู้ และการแทนความหมาย
2.คำศัพท์และความหมายของระบบ Computer Network
LAN ย่อมาจากคำว่า (Local Area Network)
-ระบบเครือข่ายขนาดเล็ก
เป็นระบบเครือข่ายเน็ตเวิร์กที่ใช้เชื่อมต่อกันในระยะไม่ไกลมากนักโดยปกติมักเชื่อมต่อกันในระยะไม่เกิน
5 กิโลเมตรคือเป็นระบบเน็ตเวิร์กที่อยู่ภายใต้อาคารเดียวกันหรือต่างอาคารในระยะใกล้ๆ
(Local Area Network)
MAN ย่อมาจากคำว่า (Metropolitan Area Wetwork)
-ระบบเครือข่ายขนาดกลาง
เป็ระบบเน็ตเวิร์กที่ต้องอาศัยโครงข่ายการสื่อสารขององค์การโทรศัพท์หรือการสื่อสารแห่งประเทศไทย
เพราะเป็นการติดต่อกันในระดับเขต แต่เป็นระบบเน็ตเวิร์กในระยะไม่เกิน 50 กิโลเมตร
(Metropolitan Area Wetwork)
WAN ย่อมาจากคำว่า (Wide Area Network)
-ระบบเครือข่ายขนาดใหญ่
เป็นระบบเน็ตเวิร์กที่มีการติดต่อสื่อสารกันในระดับประเทศ
หรือติดตสื่อสารกันได้ทั่วทุกมุมโลกโดยทั่วไปเรียกว่า world wide web สามารถส่งได้ทั้ง
ข้อมูล ภาพและเสียง โดยจะต้องใช้ media ในการติดต่อสื่อสารโดยจะต้องใช้
คู่สายโทรศัพท์ dial - up
line คู่สายเช่า leased line / ISDNขององค์การโทรศัพท์หรือการสื่อสารแห่งประเทศ
ไทยจึงจะสามารถใช้อย่างสมบูรณ์ และมีประสิทธิภาพ
(Wide Area Network)
Cyberspace
คือ
เครือข่ายคอมพิวเตอร์หลายเครือข่ายที่เเยกกันแต่สามารถติดต่อสื่อสารกันได้แม้จะใช้กฏเกณฑ์หรือมาตรฐานที่แตกต่างกันดังนั้น
Internet เป็นเพียงเครือข่ายหนึ่งของ
Cyberspace เท่านั้น
Mainframe
หมายถึง
เครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่มีสมรรถนะสูงยิ่ง มีหน่วยความจำขนาดมหึมา
มีสถานีปลายทางหลายสถานี มีอุปกรณ์นำข้อมูลเข้า และแสดงผลได้หลากหลายรูปแบบ คอม
พิวเตอร์ขนาดใหญ่นี้ ต้องอยู่ในห้องที่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้เป็นอย่างดี
(เพราะต้องการความเย็นมาก) ห้องต้องมีขนาดกว้างขวาง นอกจากนั้นยังใช้กำลังไฟสูง
และมีราคาแพงมาก บางทีเรียก mainframe
computer
( Mainframe computer )
Microcomputer
microcomputer (ไม'
โครคอมพิวเตอร์) n. เครื่องไมโครคอมพิวเตอร์, เครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก
ราคาถูก แต่ก็มีลักษณะของคอมพิวเตอร์อย่างสมบูรณ์
กล่าวคือประกอบด้วยส่วนที่เป็นฮาร์ดแวร์ (hard ware)และซอฟต์แวร์ (software)ส่วนหน่วยประมวลผลกลางจะประกอบด้วย วงจรเบ็ดเสร็จ, RAM, ROM
(Microcomputer)
3.เทคโนโลยีต่างๆที่เกี่ยวข้องกับ เทคโนโลยีสารสนเทศ ( Information Technology)
1.เทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมและซอฟต์แวร์
2.เทคโนโลยีที่เกี่ยวกับโครงสร้างของคอมพิวเตอร์และการควบคุมคอมพิวเตอร์
3.เทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์สื่อสาร
4.เทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการนำคอมพิวเตอร์ไปใช้ในงานด้านกราฟิก
มัลติเมเดีย
5.เทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการนำคอมพิวเตอร์ไปใช้ทำงานที่ชาญฉลาด
6.เทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
อินเทอร์เน็ต (Internet) เครือข่ายอินเทอร์เน็ต คำว่า Internet เป็นคำผสมระหว่าง Interconnection กับ Network เป็นการเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายเพื่อสามารถมองเห็นกันได้ทุกเครือข่าย เป็นระบบเครือข่ายสากล ที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อกันมากที่สุดในโลก โดยที่เป็นผลจากการวิจัยและพัฒนาการทางทหาร ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ในปี ค.ศ.1969 เริ่มจากการ เชื่อมโยงข้อมูลใน 4 มหาวิทยาลัย ด้วยการใช้โปรโตคอล (Protocol )เปรียบเหมือนกับภาษาที่คอมพิวเตอร์ใช้ เพื่อให้เข้าใจความหมายของข้อมูลที่ใช้รับและส่งไปในเครือข่าย) แบบ TCP/IP ลักษณะสำคัญคือ กำหนดให้เครื่องทุกเครื่อง ที่อยู่ในระบบมีหมายเลขประจำตัวที่เรียกว่า IP address การส่งข้อมูลระหว่างกัน ก็จะใช้หมายเลขนี้เหมือนกับระบบไปรษณีย์ ซึ่งข้อกำหนดนี้เป็นที่เปิดเผย เข้าใจง่าย และใช้ได้ผลดี ทำให้ระบบนี้ขยายไปทั่วโลก
ตัวอย่างเช่น
- การเรียกค้นหาข้อมูลข่าวสาร (Search) ปัจจุบันมีฐานข้อมูลข่าวสารที่เก็บไว้ให้ใช้งานจำนวนมาก
ฐานข้อมูลบางแห่งเก็บข้อมูลในรูปสิ่งพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ใช้สามารถเรียกอ่าน
หรือนำมาพิมพ์
มีลักษณะเหมือนห้องสมุดขนาดใหญ่อยู่ภายในเครือข่ายที่สามารถค้นหาข้อมูลใดๆ ก็ได้
เรียกว่า เครือข่ายใยแมงมุมครอบคลุมทั่วโลก (World Wide Web : www) ซึ่งเป็นฐานข้อมูลที่เชื่อมโยงกันทั่วโลก บริการต่างๆ บนอินเทอร์เน็ต
5. ผลกระทบจากเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีต่อการดำเนินชีวิตในด้านต่างๆ
5. ผลกระทบจากเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีต่อการดำเนินชีวิตในด้านต่างๆ
ผลกระทบในทางบวก
1.
การสื่อสารและโทรคมนาคมนั้น
ส่งผลต่อระบบสังคมการเมื่องในแง่ของการเพิ่มช่องทางเลือกในการรับรู้ข่าวสารของประชาชนให้มากขึ้น
ส่วนในระดับปัจเจกบุคคลนั้นพัฒนาการของเทคโนโลยี การสื่อสารทำให้เกิดการเรียนรู้
เกิดทัศนคติ ตลอดจนจิตสำนึกทางการเมืองในเรื่องใดเรื่องหนึ่งร่วมกันโดยไม่มีข้อจำกัดในเรื่องพรมแดน
รัฐบาลและอำนาจอธิปไตยอีกต่อไป
2.
การขยายตัวของการสื่อสารและโทรคมนาคมได้มีอิทธิพลที่สร้างผลต่อสังคมไทยทั้งในทางตรงและทางอ้อม
อันเนื่องมาจากการหลั่งไหลของ "ทุนนิยมสมัยใหม่"
ที่เกิดขึ้นทั่วโลกส่งผลให้ทุนนิยมโลก การค้าระหว่างประเทศ
หรือธุรกิจข้ามชาติเข้ามามีบทบาทต่อการเมืองไทย เกิด
"การหลั่งไหลของทุนและข้อมูลข่าวสาร" เข้าสู่ทุกส่วนของประเทศไทย
3.
การสื่อสารโทรคมนาคมมีความสะดวกติดต่อกันง่านขึ้นจึงส่งผลให้การรับรู้ข่าวสารมีความรวดเร็ว
และมีลักษณะคล้ายคลึงกันทั่วโลก หรือเกิดเป็นลักษณะ "หมู่บ้านโลก" (global village) และ "วัฒนธรรมโลก" (global culture) ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งทางวัฒนธรรม
อันเนื่องมาจากสื่อสารที่รวดเร็วเสมือนอยู่ในชุมหรือประเทศเดียวกัน
ทำให้เกิดการส่งผ่านวัฒนธรรมผ่านสื่อทันสมัยในยุคโลกาภิวัตน์ จากประเทศตะวันตกที่มีพื้นฐานทางวัฒนธรรมแตกต่างกับสังคมไทย
ทัศนคติและค่านิยมสมัยใหม่แบบตะวันตกจะหลั่งไหลเข้าสู่สังคมไทยที่ยังคงมีทัศนคติ
ค่านิยมและวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมอยู่
จึงเกิดความขัดแย้งทางวัฒนธรรมนำมาซึ่งปัญหาสังคมต่างๆ มากมาย
ผลกระทบในทางลบ
ผลกระทบที่เกิดจากเทคโนโลยีการสื่อสาร
และโทรคมนาคาที่เกิดขึ้นในทางลบมีหลายประการ เช่น
ความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศ อาชญากรรมบนอินเตอร์เนต การแพร่ภาพอนาจารย์บนเครือข่าย
การแพร่กระจายของข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล พฤติกรรมการใช้อินเตอร์เน็ตของเยาวชน การพนันบนเครือข่าย การพาณิชย์ที่ขัดต่อกฏหมายและศิลธรรม
ปัญหาบุคลากรสาขาวิชาชีพเทคโนโลยีสารสนเทศ
1.
เมื่อเทคโนโลยีสารสนเทศเริ่มเข้ามามีบทบาทต่อการอยู่ร่วมกันในสังคม
ปัญหาอาชญากรรมชนิดใหม่ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศเริ่มจะสร้างปัญหาให้แก่สังคมโดยรวม
จนรัฐบาลของประชาชนที่เกิดจากอาชญากรรมคอมพิวเตอร์
2.
ธุรกิจที่ทำภายใต้เทคโนโลยีสารสนเทศและอาศัยเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่ขัดต่อศิลธรรมและจริยธรรมมีมากมาย
ทั้งที่ผิดศิลธรรมชัดเจน และที่อยู่ในข่ายหลอกลวงให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย
ธุรกิจเหล่านี้มาในรูปแบบหนึ่งของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
3.
ปัจจุบันการจัดเก็บข้อมูลในระบบออนไลน์ช่วยให้การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว
การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลมักจัดทำเพื่อประโยชน์ในกิจกรรมของนิติบุคคล
หรือการให้บริการของหน่วยต่างๆ
ซึ่งผู้ใช้บริการมักเข้าใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่ให้ไว้นั้นจะไม่ถูกนำไปเผยแพร่หรือนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ
แต่ในความเป็นจริงข้อมูลเหล่านี้อาจถูกละเมิดได้
โดยที่เจ้าของข้อมูลอาจรู้เลยก็ได้
4.
อินเทอร์เน็ตนั้นมิได้มีแต่ประโยชน์เพียงด้านเดียว
เป็นที่ยอมรับกันว่าความไร้ขอบเขตของการออนไลน์ทำให้เกิดผลในทางลบหลายๆ ประการ
ที่เห็นได้ชัดคือปัญหาสื่อลามกอนาจาร การล่อลวง เกมออนไลน์ เป็นต้น
ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยเหล่านี้มักเป็นกลุ่มเด็กและวัยรุ่น ซึ่งขาดความรู้
ความเข้าใจ และความระมัดระวังตัวในการออนไลน์หรือการใช้เทคโนโลยีดังกล่าว
6. แนวโน้มของเทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคต
การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศในคริสต์ศตวรรษที่21มีแนวโน้มที่จะพัฒนาคอมพิวเตอร์ให้มีความสามารถใกล้เคียงกับมนุษย์
เช่น การเข้าภาษาสื่อสารของมนุษย์ โครงข่ายประสาทเทียม ระบบจำลอง ระบบเสมือนจริง
โดยพยายามนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์มากขึ้นลดข้อผิดพลาดและป้องกันไม่ให้นำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้องหรือผิดกฎหมาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น